จำเป็นต้องรู้อดีตหรือไม่


ชายคนหนึ่ง  เกิดในตระกูลมีฐานะ  เป็นลูกช่างทอง
แต่ด้วยความมัวเมาในความเป็นหนุ่ม  จึงได้ลอบเป็นชู้กับภรรยาคนอื่น

หลังจากตายในชาตินั้น  เขาไปใช้กรรมอยู่ในนรก  ถูกไฟนรกเผาเป็นเวลานาน

เมื่อพ้นจากนรกนั้น  ก็มาเกิดในท้องของนางลิงตนหนึ่ง
เมื่อคลอดได้ ๗ วัน  ก็ถูกลิงจ่าฝูงกัดอวัยวะสืบพันธุ์เพราะกลัวจะมาแย่งความเป็นใหญ่
นี้เป็นผลกรรมที่เป็นชู้กับภรรยาคนอื่น

ตายจากชาตินั้น  ก็มาเกิดเป็นแพะตัวหนึ่ง  ตาบอด  เป็นง่อย
เมื่ออายุได้ ๑๒ ปี  ก็ถูกเด็กตัดอวัยวะสืบพันธุ์  ทำให้ล้มป่วย  หนอนชอนไชที่อวัยวะสืบพันธุ์นั้น
นี้ก็เป็นผลกรรมที่เป็นชู้กับภรรยาคนอื่น

ตายจากชาตินั้น  มาเกิดเป็นลูกวัวตัวหนึ่งของพ่อค้าวัว
เมื่ออายุ ๑๒ ปี  ก็ถูกตอน  ถูกใช้ให้ลากไถและเทียมเกวียน  ป่วยเป็นโรค  ตาบอด
นี้ก็เป็นผลกรรมที่เป็นชู้กับภรรยาคนอื่น

ตายจากชาตินั้น  มาเกิดเป็นลูกของนางทาส  แต่มีเพศเป็นหญิงก็ไม่ใช่  เป็นชายก็ไม่เชิง
นี้ก็เป็นผลกรรมที่เป็นชู้กับภรรยาคนอื่น

ตายจากชาตินั้น  มาเกิดเป็นลูกสาวของคนยากจนเข็ญใจ  มีหนี้สินรุมเร้า
ถูกเจ้าหนี้ฉุดให้ไปอยู่กับลูกชายของเขาซึ่งมีภรรยาอยู่ก่อนแล้ว
ก็ไปทำให้ครอบครัวเขาแตกแยกกันอีก

มาในชาตินี้  เกิดเป็นลูกสาวเศรษฐี
เมื่อโตขึ้น  ได้แต่งงานมีครอบครัว  ไปอยู่กับสามีที่มีฐานะเสมอกัน
นางปรนนิบัติดูแลสามีประดุจเทวดา
แต่อยู่ด้วยกันได้เพียงเดือนเดียว  สามีเกิดเบื่อหน่ายนาง  และไล่นางออกจากบ้าน

พ่อแม่ได้ยกนางให้กับชายอีกคนที่มีฐานะต่ำกว่า
แต่อยู่ด้วยกันได้เพียงเดือนเดียว  สามีคนที่ ๒ ก็เบื่อหน่ายและทิ้งนางไป

พ่อแม่ได้ยกนางให้กับชายอีกคนที่มีฐานะยากจน
แต่อยู่ด้วยกันได้เพียงครึ่งเดือน  สามีคนที่ ๓ ก็เบื่อหน่ายและทิ้งนางไป
.....

ถ้าเราเกิดเป็นนางในชาตินี้  ประสบกับปัญหาในชีวิต  ถูกสามีทอดทิ้งถึง ๓ ครั้ง
เราจะทำอย่างไร
.....


(ขอบคุณภาพจาก pixabay.com)


บางคนอาจจะไปหาพระ  แม่ชี  หมอดู  ร่างทรง  สิ่งศักดิ์สิทธิ์  อื่น ๆ  ให้ช่วยแก้ไข
ให้ช่วยดูอดีต  สแกนกรรม  สะเดาะเคราะห์  ฯลฯ
จุดประสงค์หลัก  เพราะคิดว่าปัญหาเหล่านั้นเกิดจากผลกรรมในอดีต  จึงต้องการที่จะแก้กรรมด้วยวิธีการอะไรก็ได้
.....

ลูกสาวเศรษฐีเมื่อถูกสามีทอดทิ้ง  ก็คิดว่าจะไปฆ่าตัวตายให้หมดเวรหมดกรรม
แต่ในเวลานั้น  มีภิกษุณีรูปหนึ่งเดินบิณฑบาตมาถึงบ้านที่นางอยู่พอดี
นางจึงได้นิมนต์และถวายภัตตาหารแก่ภิกษุณีรูปนั้น

เมื่อภิกษุณีรูปนั้นฉันภัตตาหารเสร็จแล้ว  ได้แสดงธรรมให้นางฟัง
นางจึงกล่าวกับบิดามารดาว่า
"พ่อจ๋า  แม่จ๋า  ลูกทำบาปกรรมมามากแล้ว  ลูกจะขอชำระกรรมนั้นให้สิ้นไป  ลูกจะขอบวช"

เมื่อบิดามารดาอนุญาตแล้ว  นางจึงได้บวชเป็นภิกษุณี  ศึกษาและปฏิบัติตามพระธรรมที่พระพุทธเจ้าตรัสสอน  จนได้บรรลุพระอรหันต์
.....
(อ่านเพิ่มเติมได้ในอิสิทาสีเถรีคาถา)


ก่อนที่จะบวชนั้น  ลูกสาวเศรษฐีไม่รู้ว่าตนเองทำกรรมอะไรไว้ในอดีต
แต่เมื่อได้ฟังธรรมแล้ว  จึงตระหนักว่า
"สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของตน  เป็นผู้รับผลของกรรม
มีกรรมเป็นกำเนิด  มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์  มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย
ใครทำกรรมใดไว้  จะเป็นกรรมดีหรือกรรมชั่วก็ตาม  ย่อมเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น"

การที่จะเสียเวลาไปค้นหาว่าอดีตเคยทำกรรมอะไรไว้  ไม่เป็นประโยชน์
เพราะกรรมที่ทำลงไปแล้วไม่สามารถแก้ไขได้
เมื่อผลของกรรมที่ทำในอดีตกำลังให้ผล  ไม่ว่าจะดีหรือไม่ดี  ก็เป็นผลจากเหตุที่เราทำมาเอง  จึงควรยอมรับผลกรรมนั้นด้วยความเคารพ

แต่ปัจจุบันและอนาคต  คือสิ่งที่เราสามารถกำหนดได้
เลือกทำกรรมที่ดี  ไม่ทำบาปอกุศลกรรม  ทั้งในปัจจุบันและอนาคต
ผลของกรรมดีย่อมตามมาให้ผลที่ดีแน่นอน
.....

ย้ำอีกทีว่า  การรู้อดีตว่าเราทำกรรมอะไรมา  ไม่สำคัญ
แม้เราจะไม่รู้  แต่ถ้าเราเชื่อในเรื่องกรรมและผลของกรรม  เราก็จะยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นได้
และตั้งมั่นที่จะทำแต่กรรมดีในปัจจุบันและอนาคตตลอดไป
..........


คลิกอ่านเพิ่มเติมในพระไตรปิฎกและอรรถกถาที่เกี่ยวข้อง
๑. อิสิทาสีเถรีคาถา (ภาษิตของพระอิสิทาสีเถรี)


0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น