หลาย ๆ บทความที่ผ่านมา ได้เขียนย้ำเกี่ยวกับพระพุทธดำรัสที่ว่า
"สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของตน เป็นผู้รับผลของกรรม
มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย
ใครทำกรรมใดไว้ จะเป็นกรรมดีหรือกรรมชั่วก็ตาม ย่อมเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น"
เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งในพระพุทธศาสนา
ถ้าเราทุกคนมีความเชื่ออย่างถูกต้องในเรื่องกรรมและผลของกรรมที่จะได้รับ ก็คงจะไม่มีใครกล้าทำกรรมที่ไม่ดี ไม่มีใครกล้าละเมิดศีล เพราะกลัวว่าจะต้องรับผลที่ไม่ดีกลับมา
.....
แต่ก็มีบางคนที่นำความรู้เรื่องกรรมนี้ไปใช้ผิดทาง
เกือนสิบปีมาแล้ว ผมเคยเห็นบทสัมภาษณ์ผู้ชายคนหนึ่งที่ได้ชื่อว่าเป็นคนเจ้าชู้ คบหาเป็นแฟนกับผู้หญิงพร้อมกันหลาย ๆ คน
จำได้ว่ามีตอนหนึ่งในบทสัมภาษณ์
คนสัมภาษณ์ถามเขาว่า "สิ่งที่ทำมาทั้งหมดนี้ ไม่กลัวเวรกรรมจะตามทันหรือ"
ผู้ชายคนนี้ตอบว่า "ผมมองมุมกลับ ผมถือว่าผู้หญิงที่ต้องมาคบซ้อนกับผมหลาย ๆ คนในวันนี้ เป็นการชดใช้กรรมที่เคยทำกับผมไว้ในชาติที่แล้ว"
เขายังให้ความเห็นเพิ่มเติมอีกด้วยว่า "นี่คือกฎแห่งกรรม ชาติหน้าผมก็ต้องไปใช้กรรมให้พวกเขา แล้วชาติต่อไปพวกเขาก็ต้องมาใช้กรรมให้ผลอีก แต่สิ่งที่จะทำให้วงจรนี้หยุดลงได้ก็คือเราต้องหยุดกระทำเพื่อไม่ให้เกิดวงจรในชาติต่อไป แล้วก็อโหสิกัน"
.....
รู้สึกแปลก ๆ หรือเปล่า
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสเรื่องกรรมและผลของกรรมไว้ เพื่อให้พุทธบริษัทมีหิริและโอตตัปปะ เกิดความกลัวต่อผลของบาป และละอายต่อการที่จะต้องทำบาป
แต่ผู้ที่ไม่เข้าใจธรรมะดีพอ ก็จะเอาธรรมะไปใช้เข้าข้างกิเลสของตนเอง และกล้าทำบาปกรรมมากยิ่งขึ้น
และเมื่อทำบาปกรรมมากยิ่งขึ้น ตนเองนั่นแหละก็จะต้องได้รับผลของกรรมต่อไป
การหยุดวงจรกรรมโดยอโหสิ ก็ไม่ใช่ว่าต้องให้อีกฝ่ายอโหสิก่อน โดยเรายังคงทำกรรมไม่ดีอยู่
แท้จริงแล้ว ไม่ว่าอีกฝ่ายจะอโหสิหรือไม่ก็ตาม เราเองนั่นแหละควรจะหยุดทำบาปกรรมโดยไม่ต้องมีเงื่อนไขใด ๆ
.....
ถ้าเรามีความเข้าใจที่ถูกต้องในพระธรรมในพระพุทธศาสนา ผลที่เกิดขึ้นกับเราที่ตรวจสอบได้ คือ
๑. เราจะตั้งใจละจากบาปทั้งปวง (เพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งไม่ดีที่จะเกิดขึ้นกับเรา)
๒. เราจะตั้งใจบำเพ็ญบุญกุศลให้มากยิ่งขึ้น (เพื่อให้เกิดแต่สิ่งดีกับเรา)
ถ้าพฤติกรรมของเรายังไม่ตรงกับ ๒ ข้อนี้ ก็ควรย้อนกลับไปดูว่าเราเข้าใจพระธรรมถูกต้องแล้วหรือไม่เพียงไร
ไม่เช่นนั้น อันตรายจากการใช้พระธรรมผิดทาง คือผลของกรรมไม่ดีที่เราทำลงไป ก็จะเกิดกับเราอย่างแน่นอน
..........
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น