ข้อคิดจากแพะ


ในสมัยพุทธกาล  มีผู้กราบทูลถามว่า
"มนุษย์จำนวนมากทำการฆ่าสัตว์ให้ตาย
เพื่อทำบุญอุทิศให้กับผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว  (เรียกว่า  มตกภัต)
การกระทำเช่นนั้นจะได้บุญไปถึงผู้ตายหรือไม่"

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า
"การให้มตกภัตโดยการทำสัตว์ให้ตายนั้นไม่มีบุญใด ๆ ถึงผู้ตาย"

แล้วทรงนำชาดกมาตรัสเล่าว่า

ในอดีตกาล
พราหมณ์ผู้หนึ่งสำเร็จวิชาไตรเพทแล้ว  ต้องการฆ่าสัตว์เพื่อจะให้มตกภัต
จึงบอกให้ลูกศิษย์ไปจับแพะมาตัวหนึ่ง

เมื่อลูกศิษย์จับแพะมาแล้ว
ก็พาไปอาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาด  ประดับด้วยพวงมาลัยต่าง 
แล้วนำไปให้อาจารย์

แพะตัวนั้นเห็นสิ่งที่พราหมณ์พวกนั้นกระทำแก่ตน
ก็รู้ได้ด้วยสัญชาตญาณว่าตนกำลังจะถูกนำไปฆ่า
จากนั้น  ก็หัวเราะ
อีกสักครู่  ก็ร้องไห้

พราหมณ์ผู้เป็นอาจารย์จึงถามแพะว่า  "เหตุใดเจ้าจึงหัวเราะ"

แพะตอบว่า
"เราดูจากสิ่งที่ท่านกระทำกับเรา  ก็รู้ว่าพวกท่านกำลังจะฆ่าเราเพื่อให้มตกภัต

ท่านพราหมณ์  เราระลึกถึงกรรมในอดีตได้
เมื่อก่อน  เราก็เป็นพราหมณ์เหมือนท่านนั่นแหละ
และเราก็ได้ฆ่าแพะตัวหนึ่งเพื่อให้มตกภัต  เหมือนที่ท่านกำลังจะทำอยู่นี้

ด้วยกรรมนั้นเอง  เราต้องคอขาดตายมาแล้ว ๔๙๙ ชาติ
ชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายที่เราจะได้รับผลกรรมเช่นนั้น

เราดีใจว่า  หลังจากนี้  เราจะได้พ้นจากทุกข์นี้แล้ว
ดังนั้น  เราจึงหัวเราะ"

พราหมณ์ถามต่อว่า  "แล้วทำไมเจ้าจึงร้องไห้"

แพะตอบว่า
"เราไม่ได้ร้องไห้เพราะจะถูกท่านฆ่าหรอกนะ
แต่เพราะเราเห็นท่านกำลังจะฆ่าเรา
แล้วจะต้องได้รับผลกรรมถูกตัดหัว ๕๐๐ ชาติเหมือนเรา
เราสงสารท่าน  จึงร้องไห้"

พราหมณ์ได้ฟังแล้ว  กลัวว่าจะต้องได้รับผลกรรมเช่นนั้น  จึงบอกแพะว่า
"แพะเอ๋ย  เจ้าอย่ากลัวเลย  เราจะไม่ฆ่าเจ้าแล้ว"

แพะบอกว่า
"ท่านพราหมณ์  ท่านจะฆ่าเราหรือไม่ก็ตาม
เราก็ไม่อาจจะพ้นจากผลของกรรมไปได้หรอก"

พราหมณ์บอกว่า
"แพะเอ๋ย  เราและลูกศิษย์ทั้งหมดจะคอยดูแลคุ้มครองเจ้าเอง"

แพะจึงบอกว่า
"ท่านพราหมณ์  บาปที่เราทำไปนั้นมีกำลังมาก
ท่านและลูกศิษย์มีกำลังเพียงเล็กน้อย
ไม่มีสิ่งใดจะต้านทานผลของบาปได้หรอก"

ต่อจากนั้น  พราหมณ์ก็ได้ปล่อยแพะตัวนั้นให้เป็นอิสระแล้ว
และได้ตามคุ้มครองอย่างใกล้ชิด

แพะนั้นเมื่อถูกปล่อยแล้ว  ก็ได้เดินไปเพื่อจะกินหญ้า

ทันใดนั้นเอง  เกิดฟ้าผ่าลงมาที่ชะง่อนหินแห่งหนึ่ง
สะเก็ดหินชิ้นหนึ่งแตก  ลอยตกลงมา  ได้ตัดคอแพะขาด  ณ  ที่นั้นเอง

(อ่านเพิ่มเติมได้ในมตกภัตตชาดก)
..........


(ขอบคุณภาพจาก Artur Roman from Pexels
https://www.pexels.com/photo/animal-buck-bush-daylight-534584/)


สิ่งที่ได้จากเรื่องนี้

๑. องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ (ในนิทานสูตร) ว่า
"โลภะ (ความอยากได้) เป็นเหตุให้เกิดกรรม
โทสะ (ความคิดประทุษร้าย) เป็นเหตุให้เกิดกรรม
โมหะ (ความหลง) เป็นเหตุให้เกิดกรรม
เมื่อทำกรรมนั้นไปแล้ว
ก็จะต้องได้รับผลของกรรมในชาติที่กรรมนั้นให้ผล
อาจจะเป็นชาติปัจจุบัน  ในชาติถัดไป  หรือชาติอื่น ๆ"

ผู้ที่คิดว่า  "การฆ่าสัตว์ทำบุญอุทิศให้ผู้ตาย  จะเป็นบุญ"
นี่เป็นตัวอย่างหนึ่งของการทำบาปกรรมด้วยโมหะความหลง

การฆ่าสัตว์  การเบียดเบียน  เป็นบาป
บุญที่เกิดจากการทำบาป  ย่อมไม่มี

ฉะนั้น  ฆ่าวัวฆ่าควายเลี้ยงในงานบวช
ฆ่าเป็ดฆ่าไก่ไหว้บรรพบุรุษ
ปล้นคนรวยไปช่วยคนจน
หรืออื่น ๆ
เป็นบุญทั้งหมดหรือไม่
.....


๒. องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ (ในตโยชนวัตถุ) ว่า
"บุคคลที่ทำกรรมชั่วไว้
ถึงจะเหาะขึ้นไปในอากาศ  ก็ไม่พ้นจากบาปกรรมไปได้
ถึงจะดำลงไปในมหาสมุทร  ก็ไม่พ้นจากบาปกรรมไปได้
ถึงจะเข้าไปหลบในซอกเขา  ก็ไม่พ้นจากบาปกรรมไปได้
เพราะไม่มีแผ่นดินสักส่วนหนึ่งที่คนทำบาปยืนอยู่แล้วจะพ้นจากบาปกรรมได้"

ถึงแม้พราหมณ์จะไม่ฆ่าแพะแล้ว
ถึงแม้พราหมณ์จะให้ความอารักขาคุ้มครองแพะอย่างดี
แต่เมื่อบาปกรรมที่แพะเคยทำไว้มาให้ผล
แพะก็หนีผลของกรรมนั้นไม่ได้

ฉะนั้น  เมื่อพระพุทธเจ้าตรัสอย่างนี้แล้ว
จะมีสถานที่ใด  บุคคลใด  วิธีการใด
ที่มีความสามารถเหนือกว่าพระพุทธเจ้า
ที่จะสามารถแก้กรรม  เปิดกรรม  ล้างกรรม  ลบกรรม  ฯลฯ  ได้จริงหรือไม่
.....


๓. องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ในปัพพชิตอภิณหสูตร
ให้ภิกษุพิจารณาธรรม ๑๐ ประการเนือง ๆ
มีอยู่ข้อหนึ่ง  ให้พิจารณาว่า
"เรามีกรรมเป็นของตน  เป็นผู้รับผลของกรรม
มีกรรมเป็นกำเนิด  มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์  มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย
เราทำกรรมใดไว้  จะเป็นกรรมดีหรือกรรมชั่วก็ตาม  ย่อมเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น"

เมื่อแพะรู้ว่าจะถูกพราหมณ์ฆ่า
ก็คิดว่า  "ที่เราจะต้องคอขาดตายวันนี้  ไม่ใช่เพราะพราหมณ์จะฆ่าเรา
แต่เป็นเพราะผลของกรรมที่เราทำมาเองในอดีต
เราจะเป็นผู้รับผลของกรรมนั้นเอง"

แพะไม่ได้มีจิตโกรธแค้นในพราหมณ์แม้แต่น้อย
แต่กลับคิดว่า  "ถ้าพราหมณ์ฆ่าเรา
เขาก็จะต้องได้รับผลของกรรมเช่นเดียวกับที่เราได้รับนี้"

แพะไม่ได้สะใจที่พราหมณ์จะต้องรับกรรมเพราะมาฆ่าเรา
แต่กลับเมตตาสงสารจนร้องไห้

ฉะนั้น  เมื่อเรากำลังถูกใครทำร้าย
แม้เราจะระลึกชาติไม่ได้ก็ตาม
แต่เราจะคิดได้ไหมว่า  นั่นเป็นผลของกรรมที่เราทำมาเอง

และเราจะสงสารผู้ที่มาทำร้ายเราจากใจจริงได้หรือไม่
หรือว่าเรากำลังหลอกตัวเองว่าเราให้อภัย
ทั้งที่ในใจเรากำลังอยากให้ผลของกรรมล้างแค้นแทนเรา
.....


ใครได้ข้อคิดอื่น ๆ อีกบ้างไหม
มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้นะครับ
..........

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น