ยังไม่ทำผิดศีล แต่ไม่ใช่ผู้มีศีล


วันนี้มีคำถามง่าย ๆ ทดสอบความเข้าใจเรื่องศีลกันนิดหน่อย

สมมติว่า
นาย ก  เปิดร้านขายอาหารตามสั่ง  มีลูกค้าเข้ามาอุดหนุนมากมาย
แต่ร้านของนาย ก ไม่ค่อยสะอาดมากนัก  มักจะมีแมลงสาบวิ่งเพ่นพ่าน
และเขาก็มักจะไล่เหยียบแมลงสาบเหล่านั้นทุกครั้งที่พบเจอ

นาย ข  เป็นพนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง
แต่มักจะอู้งานอยู่บ่อย ๆ  เข้างานสาย  เลิกงานก่อน
และมักจะหยิบฉวยข้าวของของบริษัทไปใช้ส่วนตัว

นาย ค  เป็นชายหนุ่มรูปหล่อ  หน้าตาดี  มีสาว ๆ มาติดพันเขามาก
เขาแต่งงานมีครอบครัวแล้ว
แต่เขาก็แอบมีกิ๊ก  และมีความสัมพันธ์กับสาว ๆ เหล่านั้น

นาย ง  มีอาชีพขายเสื้อผ้าปลีก
เมื่อลูกค้าต่อรองราคา  เขามักจะอ้างว่าต้นทุนแพง
ทั้ง ๆ ที่ต้นทุนที่เขารับมาไม่สูงขนาดนั้น  แต่เขาบวกกำไรไว้มากเกินควร

นาย จ  เป็นคนชอบเข้าสังคม  ชอบสังสรรค์กับเพื่อน ๆ
และทุกครั้งที่พบปะเพื่อนฝูง  ก็มักจะมีเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์อยู่ด้วยทุกครั้ง

จากตัวอย่างเหตุการณ์เหล่านี้  เราคงบอกได้ว่าทั้ง ๕ คนเป็นผู้ที่ไม่ได้รักษาศีล
เพราะต่างก็ได้ทำผิดศีลกันทุกคน
.....

เรื่องของพวกเขายังไม่จบ
ต่อมา  ในช่วงวันหยุดยาว  พวกเขาเหล่านั้นมีโอกาสได้ไปเที่ยวชายทะเล

ณ  ชายทะเลแห่งนั้น
นาย ก  ไม่ต้องคอยไล่เหยียบแมลงสาบ
เพราะที่ทะเลไม่มีแมลงสาบ

นาย ข  ไม่ได้หยิบฉวยข้าวของของบริษัทไปใช้ส่วนตัว
เพราะที่นั่นไม่มีทรัพย์สินของบริษัทอยู่

นาย ค  ไม่ได้ล่วงละเมิดทางเพศกับกิ๊กของเขา
เพราะเขาไปคนเดียว  ไม่ได้พากิ๊กไปเที่ยวทะเลด้วย

นาย ง  ไม่ต้องโกหกลูกค้า
เพราะวันนี้ร้านปิด  ไม่มีลูกค้ามาซื้อของ

นาย จ  ไม่ได้ดื่มสุราของมึนเมา
เพราะเขาไม่ได้นำเหล้าเบียร์ไปด้วย  และที่ชายทะเลแห่งนั้นก็ไม่มีร้านขาย

คำถาม .....
ในขณะที่เขาเหล่านั้นอยู่ที่ชายทะเล
ทุกคนไม่ได้ทำผิดศีล
ในวันนั้น  พวกเขาได้ชื่อว่า  "เป็นผู้มีศีล"  แล้วหรือยัง ???
.
.
.
.

.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

.

คิดคำตอบไว้ก่อนนะ  แต่ยังไม่เฉลย
มาดูเรื่องต่อไปนี้กันก่อน  คราวนี้เป็นเรื่องของสัตว์บ้าง

มีหมาในตัวหนึ่ง  กินเก้ง  กวาง  หมูป่า  สัตว์เล็ก ๆ เป็นอาหาร
มันอาศัยอยู่ใกล้ฝั่งแม่น้ำแห่งหนึ่ง
วันหนึ่งในช่วงฤดูฝน  เกิดน้ำป่าไหลหลากในบริเวณที่หมาในนั้นอยู่
มันจึงขึ้นไปนอนบนหลังแผ่นหินเพื่อหนีน้ำ

ในตอนนั้น  มันคิดว่า
"เราถูกน้ำล้อมรอบอยู่  จะไปหาอาหารที่ไหนก็ลำบาก
อย่ากระนั้นเลย  เราถือศีลดีกว่า  ดีกว่านอนอยู่เฉย ๆ"
มันจึงอธิษฐานอุโบสถศีล  สมาทานศีล  แล้วนอนอยู่

เวลาผ่านไปสักครู่  สายตาของหมาในก็เหลือบไปเห็นแพะตัวหนึ่ง
ด้วยความหิว  มันจึงคิดว่า  "เราค่อยรักษาศีลในวันอื่นแล้วกัน"
แล้วมันก็ลุกขึ้นโผเข้าไปเพื่อจะตะครุบแพะนั้น

ฝ่ายแพะตัวนั้นก็วิ่งไปทางโน้นทางนี้  ไม่ให้หมาในตะครุบได้

หมาในเมื่อไม่อาจตะครุบแพะได้  จึงกลับมานอนบนหลังแผ่นหินนั้น
แล้วคิดว่า  "โชคดีจัง  ศีลของเรายังบริสุทธิ์อยู่"

คำถาม .....
ศีลของหมาในบริสุทธิ์อย่างที่มันคิดจริงหรือไม่ ???
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

.
.
.
.
.

(ขอบคุณภาพจากวิกิพีเดีย)

ก่อนที่จะเฉลย  ขอให้อ่านต่ออีกสักนิด

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ (ในปริกกมนสูตร) ว่า
"ภิกษุทั้งหลาย
เจตนางดเว้น จากการฆ่าสัตว์
เป็นทางหลีกเลี่ยงสำหรับบุคคลผู้ฆ่าสัตว์

เจตนางดเว้น จากการลักทรัพย์
เป็นทางหลีกเลี่ยงสำหรับบุคคลผู้ลักทรัพย์

เจตนางดเว้น จากการประพฤติผิดในกาม
เป็นทางหลีกเลี่ยงสำหรับบุคคลผู้ประพฤติผิดในกาม

เจตนางดเว้น จากการพูดเท็จ
เป็นทางหลีกเลี่ยงสำหรับบุคคลผู้พูดเท็จ

เจตนางดเว้น จากการพูดส่อเสียด
เป็นทางหลีกเลี่ยงสำหรับบุคคลผู้พูดส่อเสียด

เจตนางดเว้น จากการพูดคำหยาบ
เป็นทางหลีกเลี่ยงสำหรับบุคคลผู้พูดคำหยาบ

เจตนางดเว้น จากการพูดเพ้อเจ้อ
เป็นทางหลีกเลี่ยงสำหรับบุคคลผู้พูดเพ้อเจ้อ"
.....

การประพฤติผิดศีล  เปรียบเสมือนทางขรุขระ  นำไปสู่ความทุกข์ยากลำบาก
แต่ทางที่ขรุขระเหล่านั้น  มีทางราบเรียบให้ใช้เป็นทางหลีกเลี่ยงอยู่
และทางหลีกเลี่ยงที่ว่านี้  ก็คือ  เจตนางดเว้น จากการละเมิดศีลทั้งหลาย

ถ้าเรารู้ชัดว่าการละเมิดศีลไม่ว่าข้อใดก็ตาม  ล้วนนำความทุกข์มาให้  ทั้งในปัจจุบันและอนาคต
เราก็จะมีเจตนาที่จะงดเว้นจากการประพฤติผิดศีลทั้งหมด

แต่ถ้าเรายังไม่เห็นชัดถึงโทษที่เกิดจากการผิดศีล
"เจตนาที่จะงดเว้น"  ก็จะไม่เกิดขึ้น
แม้จะอยากรักษาศีล  แต่ก็เป็นเพียงความอยาก
ยังไม่มีความมั่นคงเข้มแข็งในใจ
ยังอ้างโน่นอ้างนี่เพื่อจะทำผิดศีลอยู่

ตัวอย่างของหมาในที่ไม่มีเจตนาที่จะรักษาศีลอย่างจริงจัง
เพราะยังไม่เห็นโทษของการผิดศีล
เมื่อมีโอกาส  มันจึงคิดที่จะทำผิดศีลอยู่
แม้หมาในไม่สามารถจับแพะได้  แต่ศีลของหมาในก็ไม่บริสุทธิ์

ตัวอย่างของชาย ๕ คนที่ทำผิดศีลเป็นประจำ
แต่เมื่อไปเที่ยวชายทะเล  สิ่งแวดล้อมไม่เอื้ออำนวยให้ทำผิดศีล
เขาเหล่านั้นจึงยังไม่ได้ทำผิดศีลในวันนั้น
แต่เขาเหล่านั้นยังไม่มี  "เจตนาที่จะงดเว้น"  จากการผิดศีล
เมื่อเป็นเช่นนี้  จึงเรียกว่า  "เป็นผู้มีศีล"  ยังไม่ได้

ฉะนั้น  การที่จะชื่อว่า  "เป็นผู้มีศีล"  ได้
ไม่ใช่เพียงแค่เราไม่ได้ทำผิดศีล
เพราะการที่ไม่ได้ทำผิดศีล  อาจจะเป็นเพราะสถานการณ์ไม่เอื้ออำนวย

แต่ถ้าเรามี  "เจตนาที่จะงดเว้น"  จากการทำผิดศีลแน่วแน่ในใจ
เป็นผู้มั่นคงในศีล  ไม่หวั่นไหว
แม้จะมีสถานการณ์ที่เอื้ออำนวยให้เราทำผิดศีลได้
เราก็จะไม่กระทำผิดศีลเป็นอันขาด
เมื่อนั้นแหละ  จึงนับได้ว่า  "เป็นผู้มีศีล"  อย่างแท้จริง

ทีนี้  กลับมาตรวจสอบตัวเราเองว่า
เราเป็นแค่  "ผู้ที่ยังไม่ได้ทำผิดศีล"
หรือเราเป็น  "ผู้มีศีลมั่นคง"  แล้ว
ถ้ายังไม่ใช่  เราควรทำอย่างไรจึงจะเป็นผู้มีศีลมั่นคง
.....

คลิกอ่านเพิ่มเติมในพระไตรปิฎกและอรรถกถาที่เกี่ยวข้อง
๑. วกชาดก (ว่าด้วยหมาใน)
๒. ปริกกมนสูตร (ว่าด้วยธรรมเป็นทางหลีกเลี่ยง)


0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น