สมบัติที่จำเป็นต้องมี


ครั้งหนึ่ง
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสถึงวิบัติ (ความเสื่อม) ๕ อย่าง  คือ
๑. วิบัติแห่งญาติ  (เป็นคนไร้ญาติขาดมิตร  ไม่มีเพื่อนฝูง)
๒. วิบัติแห่งโภคะ  (ฐานะยากจน  ไม่มีทรัพย์สินเงินทอง)
๓. วิบัติเพราะโรค  (ร่างกายอ่อนแอ  เจ็บไข้ได้ป่วย)
๔. วิบัติแห่งศีล  (ไม่รักษาศีล  เอารัดเอาเปรียบ  เบียดเบียนผู้อื่น)
๕. วิบัติแห่งทิฏฐิ  (ไม่เชื่อเรื่องบาปบุญคุณโทษ  ไม่เชื่อเรื่องของกรรม)

และตรัสถึงสมบัติ (ความถึงพร้อม) ๕ อย่าง  คือ
๑. สมบัติคือญาติ  (ญาติมิตรเพื่อนฝูงมากมาย)
๒. สมบัติคือโภคะ  (ไม่ยากจน  มีเงินมีทอง)
๓. สมบัติคือความไม่มีโรค  (แข็งแรง  ไม่เจ็บไม่ป่วย)
๔. สมบัติคือศีล  (รักษาศีล  ไม่เบียดเบียนผู้อื่น)
๕. สมบัติคือทิฏฐิ  (เชื่อบาปบุญคุณโทษและกฏแห่งกรรม)
..........

ในวิบัติ (ความเสื่อม) ทั้ง ๕ อย่างนั้น
เราควรหลีกเลี่ยงวิบัติใดมากที่สุด

ในสมบัติ (ความถึงพร้อม) ทั้ง ๕ อย่างนั้น
เราควรทำสมบัติใดให้เกิดขึ้นมากที่สุด
..........


(ขอบคุณภาพจาก pixabay.com)


องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ (ในพยสนสูตร) ว่า
"ความไม่มีญาติมิตร  ความยากจน  ความเจ็บไข้ได้ป่วย
ไม่สามารถทำให้สัตว์ทั้งหลายไปอบาย  ทุคติ  วิินิบาต  นรกได้

แต่ความไม่มีศีล  และความเห็นผิด  หลงผิด
เป็นเหตุที่ทำให้สัตว์ทั้งหลายต้องไปอบาย  ทุคติ  วินิบาต  นรก
..........

ในทางกลับกัน
ความมีเพื่อนฝูงบริวาร  ความร่ำรวยมั่งมี  ความไม่มีโรค
ไม่สามารถทำให้สัตว์ทั้งหลายไปสุคติโลกสวรรค์ได้

แต่ความถึงพร้อมด้วยศีล  ความเห็นถูก  ความมีสัมมาทิฏฐิ
เป็นเหตุที่ทำให้สัตว์ทั้งหลายไปสุคติโลกสวรรค์ได้"
..........


ตัวอย่างของเศรษฐีคนหนึ่ง
ได้สั่งให้บริวารจัดเตรียมบิณฑบาตถวายพระปัจเจกพุทธเจ้า
ภายหลังเกิดเสียดาย
ได้กล่าวว่า  "อาหารบิณฑบาตนี้ให้ทาสหรือกรรมกรกินยังดีกว่า"

เศรษฐีผู้นี้มีพี่ชายคนหนึ่ง
ต่อมา  พี่ชายของเขาเสียชีวิต  สมบัติตกเป็นของลูกชาย
ด้วยความโลภในทรัพย์ของพี่ชาย
เศรษฐีผู้นี้จึงลงมือฆ่าลูกชายคนเดียวของพี่ชาย

ด้วยผลแห่งกรรมที่ให้จัดเตรียมบิณฑบาตถวายพระ
เขาได้เกิดในสวรรค์ ๗ ครั้ง
ได้เป็นเศรษฐี ๗ ชาติ

ด้วยผลแห่งกรรมที่ทำความเสียดายในอาหารบิณฑบาต
แม้เขาจะเป็นเศรษฐี  แต่ก็ไม่มีใจอยากใช้สอยทรัพย์สมบัติดี ๆ
กลับกินแต่เศษอาหาร  ใส่เสื้อผ้าขาด ๆ  ใช้ยานพาหนะเก่า ๆ
ต้องอยู่อย่างลำบาก  ไม่สมฐานะ

ด้วยผลแห่งกรรมที่ฆ่าลูกของพี่ชาย
เขาจึงถูกไฟเผาในนรกหลายร้อยปี  หลายพันปี  หลายแสนปี
เมื่อมาเป็นมนุษย์  จึงไม่มีลูก
(อ่านเพิ่มเติมได้ในทุติยอปุตตกสูตร)
..........


ตัวอย่างของชายอีกคนหนึ่ง
เป็นคนยากจน  มีอาชีพขอทาน
ไม่มีญาติพี่น้อง  ไม่มีเพื่อนฝูง  และยังเป็นโรคเรื้อนอีกด้วย

วันหนึ่ง  เห็นคนเป็นจำนวนมากเดินเข้าไปในวัด
คิดว่ามีการแจกทาน  จึงเดินตามเข้าไปด้วย

ครั้นเข้าไปแล้ว  จึงรู้ว่าไม่มีการแจกทานในที่นี้
แต่คนเหล่านั้นเข้ามาฟังธรรม
เขาจึงได้นั่งลงฟังธรรมด้วย

เมื่อฟังจบ  ได้เป็นผู้มีดวงตาเห็นธรรม
ขอถึงพระพุทธ  พระธรรม  พระสงฆ์  เป็นสรณะ

ต่อมา  เขาเสียชีวิต  ได้ไปเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
(อ่านเพิ่มเติมได้ในสุปปพุทธกุฏฐิสูตร)
..........


สมบัติภายนอก  ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สิน  ที่ดิน  ญาติพี่น้อง  เพื่อนฝูง
อาจจะทำให้ชีวิตเราอยู่สบายในชาตินี้
แต่ก็ไม่สามารถทำให้เราไปสู่สุคติโลกสวรรค์ได้

แต่สมบัติคือศีล  (ไม่เบียดเบียนผู้อื่น  ตั้งมั่นในศีล ๕)
และสมบัติคือทิฏฐิ  (เชื่อกฏของกรรม  ไม่เชื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์)
เป็นสิ่งที่ทำให้เราไปสู่สุคติโลกสวรรค์ได้

ฉะนั้น  เราทั้งหลายที่ยังเป็นฆราวาส
แม้จะมีความจำเป็นต้องหาเงินหาทอง  หากินหาอยู่
เพราะยังต้องดำเนินชีวิตในชาตินี้
ก็ควรหามาโดยสุจริต  ไม่คดโกง  ไม่เบียดเบียน

และหมั่นสร้างสมบัติคือศีล  และสมบัติคือทิฏฐิ  ให้มั่นคงยิ่งขึ้น
เพื่อประโยชน์สุขในชาติต่อ ๆ ไปด้วย
.....

คลิกอ่านเพิ่มเติมในพระไตรปิฎกและอรรถกถาที่เกี่ยวข้อง
๑. พยสนสูตร (ว่าด้วยความวิบัติ)
๒. ทุติยอปุตตกสูตร (ว่าด้วยทรัพย์ที่ไม่มีบุตร  สูตรที่ ๒)
๓. สุปปพุทธกุฏฐิสูตร (ว่าด้วยชายโรคเรื้อนช่ือสุปปพุทธะ)


0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น