ให้เพื่อใคร


ในการทำบุญให้ทาน  เราสามารถให้ได้หลายอย่าง  บางคนให้อาหาร  บางคนให้เสื้อผ้า  บางคนให้ยารักษาโรค  บางคนให้หนังสือ  บางคนให้ข้าวของเครื่องใช้อื่น ๆ  บางคนให้อวัยวะ  ฯลฯ

สำหรับผู้ที่ทำบุญให้ทานด้วยโภชนาหารนั้น  ชื่อว่าเป็นผู้ให้ฐานะ ๕ ประการแก่ผู้รับ  คือ

๑. อายุ  เมื่อมีอาหารไปเลี้ยงร่างกาย  ก็ทำให้ผู้รับไม่อดอยาก  มีอายุยืน
๒. วรรณะ  ทำให้ผู้รับมีสุขภาพดี  ผิวพรรณดี  ไม่ผอมโซ
๓. สุข  ทำให้ผู้รับมีความสุขทางกายและทางใจ
๔. พละ  ทำให้ผู้รับมีพละกำลังแข็งแรงขึ้น
๕. ปฏิภาณ  เมื่อท้องอิ่ม  สมองก็แล่น  ทำให้ผู้รับสามารถคิดอะไรได้ไวขึ้น

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ (ในโภชนสูตร) ว่า

เมื่อให้อายุแล้ว  ย่อมมีส่วนได้อายุอันเป็นทิพย์  หรือเป็นของมนุษย์
เมื่อให้วรรณะแล้ว  ย่อมมีส่วนได้วรรณะอันเป็นทิพย์  หรือเป็นของมนุษย์
เมื่อให้สุขแล้ว  ย่อมมีส่วนได้สุขอันเป็นทิพย์  หรือเป็นของมนุษย์
เมื่อให้พละแล้ว  ย่อมมีส่วนได้พละอันเป็นทิพย์  หรือเป็นของมนุษย์
เมื่อให้ปฏิภาณแล้ว  ย่อมมีส่วนได้ปฏิภาณอันเป็นทิพย์  หรือเป็นของมนุษย์
.....



โดยปกติแล้ว  เราเองก็อยากจะมีอายุ  วรรณะ  สุข  พละ  ปฏิภาณ

เมื่อรู้ว่าการทำบุญให้ทานด้วยโภชนาหารจะมีอานิสงส์อย่างนี้  ก็จัดแจงทำบุญให้ทานด้วยโภชนาหาร
โดยหวังว่าตนเองจะได้มีอายุ  วรรณะ  สุข  พละ  ปฏิภาณ  ในชาตินี้
ถ้าเจ็บไข้ได้ป่วยอยู่  ก็จะได้หายเจ็บหายป่วย
ถ้ามีปัญหาที่แก้ไม่ได้อยู่  ก็จะได้คิดหาทางออกสำหรับปัญหานั้น ๆ ได้
เมื่อตายไปแล้ว  ก็จะได้มีอายุ  วรรณะ  สุข  พละ  ปฏิภาณ  ในสวรรค์
หรือถ้ากลับมาเกิดเป็นมนุษย์  ก็จะได้มีอายุ  วรรณะ  สุข  พละ  ปฏิภาณ  ในความเป็นมนุษย์
เรียกว่า .....  ตั้งเจตนาอยากได้อานิสงส์เหล่านั้น  จึงได้ให้ทาน

แต่ในพระสูตรนี้  องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสถึงผู้ที่ให้ทานเพื่อหวังประโยชน์แก่ผู้รับ

หวังว่าผู้รับจะได้มีอายุ  วรรณะ  สุข  พละ  ปฎิภาณ  จากการได้รับอาหารที่ตนให้
เรียกว่า .....  ตั้งเจตนาอยากให้ผู้รับได้มีฐานะ ๕ ประการนั้น  จึงได้ให้ทาน

เห็นความแตกต่างไหมครับ !!!

จุดประสงค์ของการทำบุญให้ทาน  ให้เพื่อใคร ???

บุคคลตัวอย่างที่สามารถกล่าวได้ว่า  "ให้เพื่อผู้อื่น"  อย่างแท้จริง  ที่เราทุกคนเห็นประจักษ์ชัด

คือ  พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  บรมนาถบพิตร  หรือในหลวง  รัชกาลที่ ๙  ของปวงชนชาวไทย
พระองค์ทรงเป็นผู้ให้อย่างแท้จริง
พระองค์มิได้ทรงกระทำเพื่อหวังให้ประชาชนรัก
แต่ถึงกระนั้น  ผลของความดีที่พระองค์ทรงกระทำ  ก็ทำให้เราทุกคนรักพระองค์อย่างหมดหัวใจ

ฉะนั้น  เมื่อการทำความดีใด ๆ  มีผลมีอานิสงส์ในความดีนั้น ๆ อยู่แล้ว

ก็ขอให้เราทำบุญให้ทาน "เพื่อผู้อื่น" อย่างแท้จริงกันเถิด

คลิกอ่านเพิ่มเติมในพระไตรปิฎกและอรรถกถาที่เกี่ยวข้อง
๑. โภชนสูตร (ว่าด้วยการให้โภชนะ)


0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น